เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ทาเครุ เซกาว่า นักมวยคิกบ็อกซิ่งชื่อดังชาวญี่ปุ่น ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกในชีวิตในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคือ การแพ้น็อกเอาท์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาในระยะเวลา 17 ปีที่เขาอยู่ในวงการมวย โดยไฟต์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 80 วินาที เท่านั้น มันถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจไม่น้อย เนื่องจากทาเครุเป็นนักมวยที่มีประวัติการชกที่น่าประทับใจ ไม่เคยแพ้น็อกเลยตลอดการต่อสู้หลายปีที่ผ่านมา
การแพ้น็อกครั้งแรกของทาเครุ สร้างความตกตะลึง
ทาเครุ เซกาว่า (44-5) เป็นหนึ่งในนักมวยที่มีสไตล์การชกที่ดุดันและไม่กลัวการแลกหมัด จนทำให้เขากลายเป็นสตาร์ที่ทำเงินได้มากที่สุดในวงการคิกบ็อกซิ่งของญี่ปุ่น ด้วยสถิติการชกที่โดดเด่น แม้จะเคยโดนน็อกดาวน์หลายครั้งในช่วงที่เขาก้าวขึ้นมาในวงการ แต่ทุกครั้งเขาก็มักจะลุกขึ้นมาและพลิกกลับมาชนะได้อย่างน่าทึ่ง ทาเครุเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักมวยที่ไม่กลัวความเสี่ยงและเต็มที่กับการต่อสู้ในทุกไฟต์การแพ้น็อกเอาท์ของเขาในครั้งนี้ถือเป็นการพลิกผันครั้งใหญ่ เพราะนอกจากจะเกิดขึ้นในเวลาแค่ 80 วินาทีแล้ว ยังถือเป็นครั้งแรกที่เขาพ่ายแพ้ในรูปแบบนี้ตลอด 17 ปีในวงการมวย ถึงแม้ว่าเขาจะเคยแพ้ด้วยการแตกหรือโดนนับหลายครั้ง แต่การแพ้น็อกแบบนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และมันทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่าเส้นทางการต่อสู้ของทาเครุจะเป็นอย่างไรต่อไป
การชกที่เต็มไปด้วยการแลกหมัด กับคู่ต่อสู้
ทาเครุ เซกาว่าเป็นนักมวยที่มีสไตล์การชกที่ไม่เกรงกลัวการแลกหมัด เขาชอบที่จะเข้าไปในกลางเวทีเพื่อแลกหมัดกับคู่ต่อสู้ ซึ่งบางครั้งอาจเสี่ยงต่อการโดนทำลาย แต่ด้วยพลังหมัดที่รุนแรงของเขาเอง ทำให้หลายๆ ครั้งที่เขาสามารถพลิกเกมกลับมาได้ แต่สำหรับไฟต์นี้ ดูเหมือนว่าเขาจะพลาดการแลกหมัดไปอย่างน่าเสียดาย โดยไม่สามารถรับมือกับแรงของคู่ชกได้ทาเครุ เคยกล่าวไว้ว่าการชกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกถึงความสนุกและตื่นเต้นในชีวิต และแน่นอนว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักมวยที่โดดเด่นที่สุดในวงการคิกบ็อกซิ่ง แต่การแลกหมัดหนักแบบนี้ก็มีผลกระทบในระยะยาว โดยเฉพาะการต้องต่อสู้กับคู่ชกที่มีทักษะการป้องกันที่แข็งแกร่งและมีพลังหมัดที่มหาศาล
การต่อสู้กับรถถัง ความฝันที่กลายเป็นจริง
ทาเครุ เคยตั้งใจจะเลิกมวยหลังจากแพ้ให้กับ เทนชิน นาสึกาวะ ในศึก THE MATCH 2022 ซึ่งเป็นการแพ้ที่ทำให้เขาต้องคิดถึงอนาคตของตัวเองในวงการมวย คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ทำไมเขาจึงเลือกที่จะกลับมาชกต่อทั้งๆ ที่มีโอกาสที่จะยุติเส้นทางนักมวยของตัวเองในช่วงนั้น การตัดสินใจกลับมาชกก็เพราะเขามีความฝันหนึ่งที่ยังไม่สำเร็จ นั่นคือการเปิดศึก ซูเปอร์ไฟต์ กับ รถถัง จิตรเมืองนนท์ นักมวยคิกบ็อกซิ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นการชกที่แฟนมวยรอคอยกันมาอย่างยาวนานแม้จะต้องใช้เวลาเกือบ 3 ปี กว่าศึกนี้จะเกิดขึ้นจริง แต่การต่อสู้ระหว่าง ทาเครุ และ รถถัง ก็เป็นการต่อสู้ที่ได้รับความสนใจจากแฟนมวยทั่วโลก และนับว่าเป็นหนึ่งในไฟต์ที่ใหญ่ที่สุดในวงการคิกบ็อกซิ่งเลยก็ว่าได้
เส้นทางที่ไม่ง่ายของทาเครุ แฟนๆ ต่างชื่นชม
หลังจากที่ทาเครุแพ้น็อกในไฟต์นี้, เขายังคงเป็นหนึ่งในนักมวยที่มีประวัติที่โดดเด่นและมีการติดตามจากแฟนๆ มวยทั่วโลก ถึงแม้ว่าผลการแข่งขันจะไม่เป็นไปตามที่เขาคาดหวัง แต่ทาเครุก็ยังคงเป็นไอคอนของวงการคิกบ็อกซิ่งญี่ปุ่น ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนมวยในหลายๆ ไฟต์ที่ผ่านมา เส้นทางของเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะทุกครั้งที่เขาก้าวขึ้นสังเวียน เขาต้องเผชิญกับคู่ชกที่มีความสามารถสูง แต่ทาเครุก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ในวงการนี้
บทสรุปทาเครุ เซกาว่านักมวยที่ยังคงเป็นไอคอนในวงการ
แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ในครั้งนี้ แต่ทาเครุยังคงเป็นหนึ่งในนักมวยที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการคิกบ็อกซิ่งและมีแฟนๆ ที่คอยติดตามผลงานของเขาอย่างต่อเนื่อง การแพ้น็อกครั้งนี้อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในเส้นทางของทาเครุ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ยังคงเป็นนักมวยที่มีความสามารถและทักษะที่ไม่อาจมองข้ามได้ถึงแม้จะมีคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเขาหลังจากนี้ แต่เชื่อว่าทาเครุจะไม่หยุดแค่เพียงการแพ้ในไฟต์นี้ และยังคงพยายามทำให้ฝันของตัวเองและของแฟนๆ กลายเป็นจริงในอนาคต ขอบอกเลยว่าไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร ทาเครุก็ยังคงเป็นไอคอนในวงการคิกบ็อกซิ่งที่แฟนมวยจะไม่มีวันลืม